การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
โปรดทราบ
ก่อนทำการสอบถามหรือขอรับบริการแจ้งซ่อม โปรดตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้ หากปัญหายังคงอยู่ ให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายของคุณ
- ไม่ใช่ปัญหา กรณีนี้ไม่ใช่ปัญหา
- ตรวจสอบ โปรดตรวจสอบอีกครั้งก่อนขอรับบริการแจ้งซ่อม
เครื่องปรับอากาศ
เครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน
ไฟแสดงการทำงานดับ
-
- เซอร์กิตเบรกเกอร์ถูกปลดวงจรหรือฟิวส์ขาดหรือไม่
- ไฟฟ้าดับหรือไม่
- มีการใส่แบตเตอรี่ในรีโมทคอนโทรลหรือไม่
ไฟแสดงการทำงานกะพริบ
-
- ปิดเครื่องด้วยเซอร์กิตเบรกเกอร์ แล้วเริ่มการทำงานใหม่อีกครั้งด้วยรีโมทคอนโทรล หากไฟแสดงการทำงานยังคงกะพริบ ให้ตรวจสอบรหัสข้อผิดพลาดและติดต่อตัวแทนจำหน่าย
เครื่องปรับอากาศหยุดทำงานกระทันหัน
ไฟแสดงการทำงานติดอยู่
-
- เพื่อเป็นการปกป้องระบบ เครื่องอาจหยุดการทำงานหลังจากที่ได้รับแรงดันไฟฟ้ากระเพื่อมอย่างมากในทันทีทันใด เครื่องจะกลับมาทำงานต่อโดยอัตโนมัติในเวลาประมาณ 3 นาที
ไฟแสดงการทำงานกะพริบ
-
- มีสิ่งใดกีดขวางช่องลมเข้าหรือช่องลมออกของตัวเครื่องภายในหรือตัวเครื่องภายนอกหรือไม่ หยุดการทำงานและหลังจากปิดเซอร์กิตเบรกเกอร์แล้ว ให้ย้ายสิ่งกีดขวางออกไป จากนั้นให้เริ่มการทำงานใหม่ด้วยรีโมทคอนโทรล หากไฟแสดงการทำงานยังคงกะพริบ ให้ตรวจสอบรหัสข้อผิดพลาดและติดต่อตัวแทนจำหน่าย
เครื่องปรับอากาศไม่หยุดทำงาน
เครื่องปรับอากาศยังคงทำงานต่อแม้ว่าจะมีการหยุดการทำงานแล้ว
-
ทันทีหลังจากหยุดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
- พัดลมของตัวเครื่องภายนอกยังคงหมุนต่อไปอีกประมาณ 1 นาทีเพื่อป้องกันระบบ
เมื่อเครื่องปรับอากาศไม่ได้ทำงาน
- เมื่ออุณหภูมิภายนอกสูง พัดลมของตัวเครื่องภายนอกอาจเริ่มหมุนเพื่อป้องกันระบบ
-
- เครื่องปรับอากาศกำลังทำงานในโหมดลดการก่อตัวของเชื้อรา (MOLD PROOF) หากต้องการหยุดการทำงานทันทีให้กดปุ่ม จะทำให้การทำงานถูกยกเลิก
ห้องไม่เย็น
การหยุดเป่าลมในชั่วขณะ
-
ในโหมดการทำงานทำความเย็น (COOL) หรือลดความชื้น (DRY)
- เมื่อตั้งค่าระดับระดับความแรงลมเป็น “อัตโนมัติ” การเริ่มการทำงานของโหมดทำความเย็น โหมดลดความชื้นจะเริ่มการทำงานของโหมดขจัดกลิ่นซึ่งจะลดกลิ่นที่ออกจากตัวเครื่องปรับอากาศภายใน และเครื่องปรับอากาศภายในจะไม่เป่าลม และจะเป่าลมอีกครั้ง รอประมาณ 1 นาที (ซึ่งถือเป็นกระบวนการทำงานปกติ)
ลมไม่ออกมา / ลมออกมา
-
การตั้งค่าระดับความแรงลมเหมาะสมหรือไม่
- การตั้งค่าระดับความแรงลมอยู่ในระดับต่ำ เช่น “ตัวเครื่องภายในทำงานเงียบ” หรือ “ระดับความแรงลม 1” หรือไม่ เพิ่มการตั้งค่าระดับความแรงลม
อุณหภูมิที่ตั้งไว้เหมาะสมหรือไม่
การปรับทิศทางการกระจายลมเหมาะสมหรือไม่
ลมออกมา
-
- มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆ อยู่ใต้หรือด้านข้างตัวเครื่องภายในหรือไม่
- เครื่องที่คุณกำลังใช้งานหรือเครื่องอื่นมีการทำงานโหมดประหยัดพลังงานหรือโหมดลดระดับเสียงเครื่องภายนอกหรือไม่
- ตัวกรองอากาศสกปรกหรือไม่
- มีสิ่งใดกีดขวางช่องลมเข้าหรือช่องลมออกของตัวเครื่องภายในหรือตัวเครื่องภายนอกหรือไม่
- หน้าต่างหรือประตูเปิดอยู่หรือไม่
- พัดลมดูดอากาศกำลังหมุนอยู่หรือไม่
การทำความเย็นไม่มีประสิทธิภาพ
-
- มีการเปิดการทำงานของโหมดตาอัจฉริยะ โหมดลดการก่อตัวของเชื้อรา โหมดลดระดับเสียงเครื่องภายนอก โหมดประหยัดพลังงานอยู่หรือไม่
อุณหภูมิห้องไม่ถึงอุณหภูมิตามที่ตั้งไว้
-
- หากลมที่ออกมาจากเครื่องปรับอากาศเป่าไปที่ผนัง แสดงว่าอุณหภูมิควบคุมที่ตั้งไว้อาจไม่ถูกต้อง
มีละอองหมอกออกมา
มีละอองหมอกออกมาจากตัวเครื่องภายใน
-
- กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่ออากาศในห้องถูกทำให้เย็นจนเป็นละอองหมอกโดยกระแสลมเย็นในระหว่างการทำความเย็นหรือการทำงานอื่น
รีโมทคอนโทรล
ตัวเครื่องไม่ได้รับสัญญาณจากรีโมทคอนโทรล หรือมีช่วงระยะการทำงานจำกัด
-
- แบตเตอรี่อาจใกล้หมด เปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งคู่ด้วยแบตเตอรี่แห้งใหม่ AAA.LR03 (อัลคาไลน์) สำหรับรายละเอียด โปรดดูที่ “การเตรียมการก่อนใช้งาน”
- สัญญาณการสื่อสารอาจไม่ดี หากมีหลอดไฟฟลูออเรสเซนท์ชนิดสตาร์ทเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ (เช่น หลอดไฟชนิดอินเวอร์เตอร์) อยู่ภายในห้อง ในกรณีนี้ โปรดปรึกษาตัวแทนจำหน่ายของคุณ
- รีโมทคอนโทรลอาจทำงานได้ไม่ถูกต้อง หากตัวส่งสัญญาณสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
หน้าจอแสดงผลเลือนลาง ไม่ทำงาน หรือแสดงผลผิดพลาด
-
- แบตเตอรี่อาจใกล้หมด เปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งคู่ด้วยแบตเตอรี่แห้งใหม่ AAA.LR03 (อัลคาไลน์) สำหรับรายละเอียด โปรดดูที่ “การเตรียมการก่อนใช้งาน”
” ” บนจอแสดงผลจะกะพริบและรีโมทคอนโทรลไม่สามารถทำงานได้
-
- แบตเตอรี่หมด เปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งคู่พร้อมกันด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหม่ AAA.LR03 (อัลคาไลน์) การทิ้งแบตเตอรี่ที่ใช้หมดแล้วไว้ในรีโมทคอนโทรลอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายจากแบตเตอรี่รั่วไหล แตกร้าว หรือมีความร้อน หรือทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ (แม้ในขณะที่ ” ” กำลังกะพริบ ปุ่มปิดเครื่องยังคงสามารถทำงานได้)
อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เริ่มทำงาน
-
- หากรีโมทคอนโทรลทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เริ่มทำงาน ให้ย้ายอุปกรณ์เหล่านั้นออกไปหรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายของคุณ
ลมมีกลิ่น
เครื่องปรับอากาศส่งกลิ่นออกมา
-
- กลิ่นภายในห้องที่ถูกดูดซับไว้ในตัวเครื่องจะถูกปล่อยออกมาพร้อมกระแสลม ขอแนะนำให้คุณทำความสะอาดตัวเครื่องภายใน โปรดปรึกษาตัวแทนจำหน่าย
- เนื่องจากการปล่อยประจุสตรีมเมอร์ ทำให้ช่องลมออกอาจมีกลิ่นจางๆ ซึ่งแสดงให้ทราบว่ามีการสร้างโอโซนขึ้น อย่างไรก็ตาม ปริมาณดังกล่าวมีน้อยมากและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ
การทำงานกรองอากาศของสตรีมเมอร์
ไม่ได้ยินเสียงการปล่อยประจุสตรีมเมอร์อีก
-
- หากกระแสลมอ่อน การปล่อยประจุสตรีมเมอร์จะหยุดลง
อื่นๆ
เครื่องปรับอากาศเริ่มมีอาการผิดปกติอย่างกะทันหันในระหว่างการทำงาน
-
- เครื่องปรับอากาศอาจทำงานผิดปกติเนื่องจากฟ้าแลบหรือวิทยุ หากเครื่องปรับอากาศทำงานผิดปกติ ให้ปิดเครื่องด้วยเบรกเกอร์ป้องกันไฟรั่ว แล้วเริ่มการทำงานใหม่ด้วยรีโมทคอนโทรล
ปิด
โปรดโทรติดต่อร้านบริการในทันที
คำเตือน
เมื่อมีสิ่งผิดปกติ (เช่น กลิ่นเหม็นไหม้) เกิดขึ้น ให้หยุดการทำงานและปิดเบรกเกอร์ป้องกันไฟรั่ว
- การใช้งานต่อไปในสภาพผิดปกติอาจทำให้เกิดปัญหา ไฟดูด หรือเพลิงไหม้ได้
- โปรดติดต่อร้านบริการที่คุณซื้อเครื่องปรับอากาศมา
- การทำงานที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้เกิดไฟดูดหรือเพลิงไหม้ได้
- โปรดติดต่อร้านบริการที่คุณซื้อเครื่องปรับอากาศมา
ถ้าเครื่องมีอาการดังต่อไปนี้ โปรดดึงเบรกเกอร์ลงและโทรติดต่อร้านบริการ
- สายไฟร้อนผิดปกติ หรือเกิดความเสียหาย
- มีเสียงผิดปกติขณะเปิดใช้งาน
- เบรกเกอร์นิรภัย ฟิวส์ หรือเบรกเกอร์ตัดไฟรั่วหยุดการทำงานของเครื่องบ่อยครั้ง
- สวิตช์ หรือปุ่มมักไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง
- มีกลิ่นไหม้
- มีน้ำรั่วไหลออกเครื่องปรับอากาศ
โปรดทราบ
หลังจากไฟฟ้าดับ
- เครื่องปรับอากาศจะกลับสู่การทำงานตามปกติ ภายในเวลาประมาณ 3 นาที ควรรอสักครู่
ฟ้าแลบ
- ถ้ามีฟ้าแลบในบริเวณใกล้บ้าน โปรดหยุดใช้งานเครื่องปรับอากาศ และดึงเบรกเกอร์ลงเพื่อเป็นการป้องกันระบบ
ปิด
การวินิจฉัยสิ่งผิดปกติโดยรีโมทคอนโทรล
กรณีเครื่องปรับอากาศมีปัญหา สามารถตรวจสอบหาสาเหตุจากการรับรหัสข้อผิดพลาดโดยการกดรีโมทคอนโทรล เพื่อใช้เป็นข้อมูลก่อนโทรศัพท์เรียกช่างซ่อมบำรุง
- เมื่อกด ค้างไว้ 5 วินาที ตัวแสดง “ ” จะกะพริบบนส่วนแสดงอุณหภูมิ
-
กด ซ้ำๆ จนกว่าจะมีเสียงปี๊บดัง
- ตัวแสดงรหัสจะเปลี่ยนไปตามที่แสดงไว้ด้านล่างนี้ และสังเกตได้จากเสียงปี๊บยาว
ระบบ | |
---|---|
00 | ปกติ |
UA | ความผิดพลาดจากการเชื่อมต่อระหว่างตัวเครื่องภายในและตัวเครื่องภายนอก |
U0 | สารทำความเย็นไม่พอ |
U2 | แรงดันไฟฟ้าลดลงหรือวงจรหลักมีแรงดันไฟฟ้าสูงกว่าปกติ |
U4 | ข้อผิดพลาดในการส่งสัญญาณ (ระหว่างตัวเครื่องภายในกับตัวเครื่องภายนอก) |
ตัวเครื่องภายใน | |
A1 | แผงอุปกรณ์ไฟฟ้าตัวเครื่องภายในผิดปกติ |
A5 | ระบบควบคุมความดันสูงหรือระบบป้องกันการแข็งตัว |
A6 | มอเตอร์พัดลม (มอเตอร์กระแสตรง) ผิดปกติ |
C4 | เทอร์มิสเตอร์เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนผิดปกติ |
C9 | เทอร์มิสเตอร์วัดอุณหภูมิภายในห้องผิดปกติ |
CC | เซ็นเซอร์ตรวจจับความชื้นทำงานผิดปกติ |
ตัวเครื่องภายนอก | |
EA | การสลับระบบทำความเย็นกับระบบทำความร้อนผิดพลาด |
E1 | แผงอุปกรณ์ไฟฟ้าตัวเครื่องภายนอกผิดปกติ |
E5 | การเปิดใช้งาน OL (โอเวอร์โหลดของคอมเพรสเซอร์) |
E6 | คอมเพรสเซอร์ล็อค |
E7 | มอเตอร์พัดลมหยุดหมุน |
F3 | ตัวควบคุมอุณหภูมิของท่อ discharge ผิดปกติ |
F6 | ระบบควบคุมความดันสูง (ในการทำความเย็น) |
F8 | ระบบหยุดทำงาน เนื่องจากอุณหภูมิภายในคอมเพรสเซอร์ผิดปกติ |
H0 | เซ็นเซอร์ระบบคอมเพรสเซอร์ผิดปกติ |
H6 | ตำแหน่งของเซ็นเซอร์ผิดปกติ |
H8 | เซ็นเซอร์แรงดันไฟฟ้ากระแสตรง / กระแสไฟผิดปกติ |
H9 | เทอร์มิสเตอร์วัดอุณหภูมิตัวเครื่องภายนอกผิดปกติ |
J3 | เทอร์มิสเตอร์วัดอุณหภูมิของท่อ discharge ผิดปกติ |
J6 | เทอร์มิสเตอร์วัดอุณหภูมิคอนเดนซิ่งผิดปกติ |
J8 | เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิท่อของเหลวทำงานผิดปกติ |
L3 | ชิ้นส่วนไฟฟ้าเกิดความร้อนสูง |
L4 | อุณหภูมิครีบระบายความร้อนเพิ่มขึ้น |
L5 | มีการตรวจพบว่าค่ากระแสไฟเกิน |
P4 | เทอร์มิสเตอร์ครีบระบายความร้อนผิดปกติ |
หมายเหตุ
- เสียงปี๊บสั้นและเสียงปี๊บต่อเนื่องกัน 2 ครั้งจะแสดงรหัสที่ไม่เกี่ยวข้อง
- หากต้องการยกเลิกตัวแสดงรหัส ให้กด ค้างไว้ 5 วินาที หากไม่ได้กดปุ่มนาน 1 นาที ตัวแสดงรหัสจะยกเลิกอัตโนมัติ
ปิด
เกี่ยวกับสภาพการทำงาน
หากการทำงานดำเนินต่อไปภายใต้สภาพแวดล้อมนอกเหนือจากที่แสดงไว้ในตาราง
- อุปกรณ์นิรภัยอาจทำงานเพื่อหยุดการทำงานเครื่อง
- อาจมีน้ำเกิดขึ้นที่ตัวเครื่องภายในและหยดลงมาเมื่อเลือกโหมดการทำความเย็นหรือลดความชื้น
โหมด | สภาพการทำงาน |
---|---|
ทำความเย็น / ลดความชื้น |
อุณหภูมิภายนอก: 19.4-46.0°C อุณหภูมิภายใน: 16.0-32.0°C ความชื้นภายใน: สูงสุด 80% |
“°C” : องศาเซลเซียส
ปิด